วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

เต่าสองหัว

เต่าสองหัว
เจ้าหน้าที่สวนสัตว์น้ำ "วอเตอร์ เวิลด์" ในเมืองหวู่เหว่ย มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ต้องตกตะลึงพรึงเพริศสุดๆ เพราะพอตรวจสอบลูกเต่าที่สั่งซื้อมาจากฟาร์มท้องถิ่น ก็พบเจ้า "เต่าสองหัว" ตัวจิ๋วเข้าให้!
นายจิมมี่ หู ประชาสัมพันธ์วอเตอร์ เวิลด์ บอกว่า ลูกเต่าสองหัวเป็นปกติเหมือนเต่าหัวเดียวทุกประการ ข้อแตกต่างมีแค่ มันโตเร็วกว่าเต่าครอกเดียวกัน เพราะสองหัวที่งอกออกมานั้นกินจุเหมือนกันเด๊ะ!
ถ้าปล่อยให้กินจนอ้วนหัวโต..เวลาจะหดเข้ากระดองพร้อมๆ กันคงลำบากน่าดูชม!

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551

ครัวซองต์(Croissants)

ครัวซองต์
เรื่องราวของครัวซองต์มีตำนานหลากหลาย
แต่มีเนื้อความคล้าย ๆ กันค่ะบ้างก็ว่า

เกิดในกรุงเวียนนา (ออสเตรีย) ในปีคศ 1683
หรือ กรุงบูดาเปสต์ (ฮังการี) ในปีคศ 1686
แต่น้ำหนักจะไปทางเวียนนาซะมาก
เรื่องมีอยู่ว่ามีกลางดึกคืนหนึ่ง
มีช่างอบขนมปังคนหนึ่งกำลังทำงานอยู่ห้องใต้ดิน
แล้วก็ได้ยินเสียงตุ้บ ๆ จากหลังกำแพง
เหมือนเสียงคนขุดอุโมงค์
ซึ่งคาดว่าเป็นพวกทหารเติร์กที่จะบุกมาเข้าโจมตียึดเมือง
ช่างทำขนมปังจึงได้ไปรายงานทางการทันที
และได้ช่วยกันเผาอุโมงค์ที่ทหารเติร์กช่วยกันขุด
จึงทำให้เมืองของตนรอดพ้นจากการถูกยึดได้
ช่างขนมปังไม่ได้ขอรางวัลอะไร
นอกจากขอทำขนมเเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว (Crescent)
ซึ่งเป็นเครื่องหมายอยู่บนธงอ็อตโตมัน (ของพวกเติร์ก)

ครัวซองต์ก็เลยเกิดขึ้นมาแต่ต่อมา
ที่ประเทศฝรั่งเศสในปี คศ1875
ได้รวบรวมครัวซองต์มาเป็นขนมที่กินกับกาแฟ
(มีขนมอื่น ๆ เช่นมัฟฟินด้วย)
และได้เขียนสูตรเป็นเรื่องเป็นราวในปีคศ 1905
ซึ่งไม่มีใครเคยพบสูตรครัวซองต์ในที่ใด ๆ ในโลกนี้มาก่อน
สรุปว่าประเทศฝรั่งเศสได้นำครัวซองต์
มาทำให้เกิดใหม่อีกครั้งหนึ่งค่ะ
โดยได้นำเข้ามาจากเวียนนาอีกที
ครัวซองต์มีขั้นตอนการทำเหมือนพายชั้น
แต่ไม่ต้องนำแป้งแช่แข็งก่อนอบ
การทำครัวซองต์จะนิยมใส่ยีสต์ในแป้ง
ทำให้ครัวซองต์มีโพรงอากาศพองโต
และเนื้อข้างในนิ่มไม่กรอบร่วนเหมือนพายชั้นค่ะ

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

ทัชมาฮาล (Le Taj Mahal)

ประวัติ

ทัชมาฮาล สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์อินเดียผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ เจ้าชายขุร์รัม ชึ่งต่อมาคือจักรพรรดิชาห์ ชหาน พระราชสมภพในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) พระบิดา คือ จักรพรรดิ ชาห์ ชหานชีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุล แห่งอินเดีย ตามตำนานกล่าวว่า เจ้าชายขุร์รัม ได้พบกับ อรชุมันท์ พานุ เพคุม ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์ มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายขุร์รัมจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตรสาวของรัฐมนตรี พิธีอภิเษกถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี ในปี พ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย
หลังจากที่พระเจ้าชาห์ ชหาน ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี
พ.ศ. 2171 พระองค์มอบความไว้วางใจแก่ อรชุมันท์ พานุ เพคุม และเรียกนางว่า มุมตัซ มาฮาล "อัญมณีแห่งราชวัง" พระมเหสีติดตามพระองค์ แม้แต่ในสนามรบ แนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ และพระองค์ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระมเหสียิ่งนัก ครั้นในปี พ.ศ. 2174 (ค.ศ. 1631) พระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์ หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 การสิ้นพระชนม์ของพระมเหสีทำให้พระเจ้าชาห์ ชหานโศกเศร้าอยู่ถึงสองทศวรรษ ราชสมบัติส่วนใหญ่สูญเสียไปเพื่อการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์
ในปี
พ.ศ. 2200 (ค.ศ. 1657) พระเจ้าชาห์ ชหานทรงพระประชวร และในปี พ.ศ. 2201 (ค.ศ. 1658) พระโอรส โอรังเซบ จับพระเจ้าชาห์ ชหานขัง และขึ้นครองราชบัลลังก์เเทน พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระเจ้าชาห์ ชหานถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าพระเจ้าชาห์ ชหาน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล

ขนาด

ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องเเจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ส่วนหัวของทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม

เหตุผลที่ได้รับคัดเลือกเป็นมรดกโลก

ทัชมาฮาลได้ถูกรับเลือกเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2526 โดยมีเหตุผลตามเกณฑ์การพิจารณาคือ
(i) - เป็นตัวแทนซึ่งแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันฉลาด

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส

จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐฝรั่งเศส
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Président de la République française)
เป็นตำแหน่งประมุขของรัฐที่มาจากการเลือกตั้ง4 ใน 5 สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่เคยมีมาได้มีประธานาธิบดีในตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ซึ่งทำให้ระบอบประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นระบอบที่ยาวนานที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ยุโรปประเทศหนึ่ง รัฐธรรมนูญในแต่สาธารณรัฐนั้น อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของประธานาธิบดีนั้นมีความแตกต่างกันไป
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสนั้นยังมีฐานะเป็นผู้ปกครองร่วมอันดอร์ราอีกด้วย
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบันคือ
นิโกลาส์ ซาร์โกซี เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551

พาราลิมปิกเกม์ ชัยชนะของนักกีฬาคนพิการ




ความเป็นมาของพาราลิมปิกเกมส์นั้นเริ่มต้นด้วยแนวคิดของ Sir Ludwig Guttman ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ที่ใช้กีฬาเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดรักษาและการฟื้นฟูสมรรถภาพทหารที่บาดเจ็บจากสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดยได้มีการจัดการแข่งขันขึ้น ระหว่างทีมคนพิการจากสถานสงเคราะห์ Star & Garter และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล Stoke Mandeville ในระหว่างพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 14 ซึ่งประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน
จากความพยายามที่จะผลักดันให้กีฬาคนพิการได้กลายเป็นกีฬาระดับโลกสำหรับคนพิการทั่วไปเป็นมาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นองค์กรกีฬา พาราลิมปิก ต่อมาในปี ค.ศ. 1960 ได้มีการจัดการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก อย่างเป็นทางการที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ภายหลังกีฬาโอลิมปิก 2 สัปดาห์ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นรูปแบบของกีฬาพาราลิมปิก ที่จัดคู่กับกีฬาโอลิมปิกมาทุกสมัย และได้มีการประกาศใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า " Paralympic Games " ในปีค.ศ. 1984 สมัยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
พาราลิมปิกเกมส์ ได้ถูกจัดขึ้นแล้ว 12 ครั้ง ครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นครั้งหลังสุดนี้ จัดขึ้นภายหลังกีฬาโอลิมปิก 2004 ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ระหว่างวันที่ 17 - 28 กันยายน พุทธศักราช 2547 มีการแข่งขัน 19 ประเภทกีฬา จำนวนนักกีฬาประมาณ 3,969 คน จาก 136 ประเทศ ประเภทของกีฬาได้แก่ ยิงธนู กรีฑา บาสเกตบอล บ็อคเชีย จักรยาน ขี่ม้า ฟุตบอล 7 คน ฟุตบอล 5 คน โกลด์บอล ยูโด ยกน้ำหนัก เรือใบ ยิงปืน ว่ายน้ำ เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอล วีลแชร์บาสเกตบอล วีลแชร์ฟันดาบ วีลแชร์รักบี้ วีลแชร์เทนนิส ในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 12 นี้ ประเทศไทยส่งนักกีฬาคนพิการที่ผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล ( IPC ) จำนวน 43 คน เข้าร่วมแข่งขันในประเภทกีฬา 9 ประเภท ได้แก่ กรีฑา ว่ายน้ำ ยกน้ำหนัก บ็อคเชีย ยิงธนู วีลแชร์เทนนิส ยูโด ฟันดาบ และยิงปืน
ผลการแข่งขันปรากฎว่านักกีฬาคนพิการไทยได้
เหรียญทอง 3 เหรียญ จากสายสุนีย์ จ๊ะนะ (ฟันดาบ) จากพิเชษฐ์ กรุงเกตุ, เรวัตร ต๋านะ, ศุภชัย โกยทรัพย์, ประวัติ วะโฮรัมย์ (กรีฑา ได้ 2 เหรียญ) เหรียญเงิน 6 เหรียญ จากทองสา มารศรี (ยกน้ำหนัก) จากสมชาย ดวงแก้ว (ว่ายน้ำได้ 2 เหรียญ) จากวาสนา กาบไม้จันทร์ (ธนู) จากประวัติ วะโฮรัมย์ (กรีฑา) จากสาคร ขันทะสิทธิ์, รัตนา เตชะมณีวัฒน์ (เทนนิส)เหรียญทองแดง 6 เหรียญ จากสายสุนีย์ จ๊ะนะ (ฟันดาบ) จากพนม ลักษณะพริ้ม (ว่ายน้ำ) จากพัทยา เทศทอง (บ็อคเชีย) จากเรวัตร ต๋านะ (กรีฑา) จากสานิตย์ สงนอก (ว่ายน้ำ) จากพิเชษฐ์ กรุงเกตุ (กรีฑา)จำนวนเหรียญที่ได้รับ มาเป็นสถิติในลำดับที่ 35